เมื่อเก็บอัฐิท่าน ญาติพี่น้องก็สะดุดใจว่า อัฐิของท่านช่างขาวสะอาดเหมือนดอกมะลิ แต่ไม่มีใครคิดอะไรมากกว่านั้น เพียงเอาอัฐิห่อผ้าขาวใส่พาน นำมาเก็บไว้ที่กุฎิที่ท่านมรณภาพที่วัดป่าผาลาด
.
เวลาผ่านไป 2 ปีเศษ โยมญาติพี่น้องได้จัดหาโกศมาบรรจุอัฐิธาตุของท่าน เมื่อแก้ห่อผ้าอัฐิออก อัฐิที่เคยเห็นเป็นสีขาวเหมือนดอกมะลิ กลายเป็น อัฐิธาตุก้อนเล็ก ก้อนใหญ่ เป็นแก้วใสบริสุทธิ์บ้าง มีสีขาว สีเขียว สีแดง สีเหลือง เป็นที่แปลกใจไปตามๆกัน แต่ก็แสดงว่ากระดูกของท่านได้กลายเป็นพระธาตุอย่างแน่นอน
.
ตามความเชื่อของชาวพุทธ
หมายความว่า
ท่านผู้ใดกระดูกกลายเป็น พระธาตุ ท่านผู้นั้นได้มีจิตวิญญาณ บรรลุถึงความเป็นพระอรหันต์แล้ว คือไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป
.
พระธาตุอรหันต์ในยุคปัจจุบันไม่ใช้สิ่งที่เกิดได้โดยง่าย ผู้บรรลุเป็นพระอรหันต์ในโลกมนุษย์ หรือพรหมโลกชั้นสุทธาวาส จะต้องบากบั่นพากเพียรพยายามปฏิบัติธรรมอย่างเสี่ยงตายถวายชีวิตต่อพระพุทธเจ้ากันทีเดียว พระพุทธเจ้าจะเป็นพระพุทธเจ้าตรัสรู้ได้ ต้องสร้างบารมีไม่น้อยกว่า 4 แสนกัป ส่วนอรหันต์สาวก ต้องสร้างบารมีอย่างน้อย 1 แสนกัป การได้กราบไหว้บูชาด้วยจิตศรัทธาเลื่อมใสต่อต่อพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าก็ดี พระอรหันต์สาวกก็ดี ย่อมเป็นวาสนาบารมีอันใหญ่หลวงของผู้บูชา ดังพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสถึง สถูปบรรจุอัฐิธาตุของบุคคล 4 ประการเอาไว้
สถูปบรรจุพระอัฐิธาตุของตถาคตอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า
สถูปบรรจุพระอัฐิธาตุของพระเจกพุทธเจ้า
สถูปบรรจุพระอัฐิธาตุของพระอรหันต์
สถูปบรรจุพระอัฐิธาตุของพระเจ้ามหาจักรพรรดิ
บุคคลพิเศษนี้เป็นที่ไหว้สักการบูชา ใครกราบสักการะบูชาด้วยจิตใจที่เลือมใสย่อมเป็นปัจจัยให้สัตว์เกิดในสุคติโลกสวรรค์ตามกำลังเลื่อมใจในจิตของตน
No comments:
Post a Comment