wat

วัดป่าผาลาด ต.วังดัง อ.เมือง จ. กาญจนบุรี
เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การปฎิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง เงียบสงบ ท่ามกลางป่าไม้ธรรมชาติ ธารน้ำตก ทางวัดยินดีต้อนรับผู้ที่ตั้งใจเรียนรู้และปฎิบัติเจริญศีล สมาิธิ ภาวนา ทุกท่าน ทั้งนี้เพื่อความสะดวกเรียบร้อยในการจัดการรองรับเรื่องที่พัก ก่อนมาปฎิบัติธรรม

กรุณาติดต่อวัด หรือ คุณแม่ชีบุญยงค์
Tel. 089-6154890, 086-0183509.
Photobucket ตารางปฎิบัติธรรมและระเบียบ
Photobucket การเดินทาง

Photobucket
Photobucket

Watpa-PhaLad is located at Tumbon Wangdong, Muang District, Kanchanaburi, Thailand
   Surrounded by pure natural forest and waterfall, Watpa-Phalad is an exceptional place to practise Meditation. We welcome you all ,regardless of nationalities or races, who want to learn and practise Meditation.

For availability of meditation halls, strongly recommend to advance contact to "Nun Bonyong"
Tel. 66 89 6154890, 66 86 0813509

Sep 9, 2008

ตอนที่ 8: คือ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม นั่นเอง

และแล้วพระบวชใหม่เพียงพรรษาเดียว ที่ตั้งใจบุกบั่น มุ่งมั่น ทรหดอดทน ตามหาว่าที่พระอาจารย์ ที่ไม่รู้จักชื่อ ไม่รู้จักหน้าตา มีแค่รูปลักษณะ และเส้นทางการเดินทางจากที่หลวงปู่อาจารย์รูปแรกบอกไว้ ก็ได้มาถึงวัด ที่มีศาลาเล็กๆหลังหนึ่ง กุฎิก็ยังไม่แข็งแรงเป็นไม้ไผ่หลังคามุงแฝก พอหลบฝนหลบแดดเพื่อปฎิบัติธรรมเท่านั้น มีพระเณรไม่กี่รูป ท่านก็เดินตรงไปที่ศาลา หาพระที่มีลักษณะท่าทางอย่างที่หลวงปู่พระอาจารย์รูปแรกบอกไว้ เห็นท่านหนึ่งนั่งอยู่ตามลำพังบนศาลาโรงฉัน ลักษณะท่าทางเหมือนแบบไม่ผิดเพี้ยนเลย ซึ่งก็คือ "หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม" นั่นเอง (ลองกลับไปดูรูป หลวงปู่ตื้อ สิ หน้าท่านดูดุ ดุ๊ จริงจัง ท่าทางเหมือนนักเลง อย่างที่หลวงปู่พระอาจารย์ ของท่านบอกไว้เลย ตอน scan รูปท่านยังเกรงสายตาดุๆ ของท่านเลยยยยย) จึงขึ้นไปกราบนมัสการและเรียนว่า ได้เดินทางมาจากทางใต้ ตั้งใจจะมาฝากตัวเป็นศิษย์ขอปฎิบัติธรรม

หลวงปู่ตื้อ ก็ถามทันทีว่า "ก่อนบวชเคยทำอาชีพอะไรมาให้บอกไปตามจริง" ท่านก็คิดไม่ตกว่าควรตอบแบบไหนดี หวงปู่ตื้อชี้หน้าบอกว่า "ให้บอกมาไม่เช่นนั้นจะไม่รับเป็นศิษย์" ท่านจึงตอบไปว่า "เป็นโจรครับ" หลวงปู่ตื้อพูดว่า "การเป็นศิษย์ต้องมีข้อแม้" ท่านก็ตอบตกลงก่อนโดยไม่รู้ว่าข้อแม้คืออะไร หลวงปู่ตือให้ท่านจุดธูปปักบนกระถางหน้าพระประธานบนศาลาโรงฉัน แล้วให้พูดตามว่า "จะบวชตลอดชีวิต ไม่ลาสิขาบท"

ในขณะนั้น หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม พระป่าที่โด่งดังในสายพระธรรมยุตินิกาย เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตผู้ที่ได้ฉายาว่าเป็นแม่ทัพธรรมอันยิ่งใหญ่ กำลังสร้างสำนักสงฆ์ ซึ่งปัจจุบันคือ วัดป่าดาราภิรมย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หลวงปู่ตื้อเป็นลูกศิษย์ท่านหนึ่งที่หลวงปู่มั่นให้ความไว้วางใจ และให้ร่วมติดตามไปธุดงค์อยู่หลายปี หลวงปู่ตื้อเคยปรารภกับสานุศิษย์ว่า "ใครอย่าไปดูถูกท่านตื้อนะ ท่านตื้อเป็นพระเถระ" กิตติคุณของหลวงปู่ตื้อนั้นมักกล่าวกันว่า เป็นคนพูดจาโผงผาง ตรงไปตรงมา ไม่ชอบพูดอ้อมค้อมเกรงอกเกรงใจใคร เป็นการตัดปัญหาให้สั้นเข้า


ท่านพระอาจารย์ประยุทธ ได้เป็นศิษย์ตามหลวงปู่ตื้อ ออกธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพรอยู่เสมอ เว้นแต่เมื่อเวลาพากเพียรปฎิบัติจึงจะแยกไปอยู่ห่างๆ แค่พอไปมาหาสู่กันได้ไม่ไกลนัก เมื่อมีปัญหาติดขัดในการปฎิบัติ ก็จะมาเรียนถามหลวงปู่ให้ท่านอธิบายอยู่เสมอ

หลวงปู่ตื้อหยั่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า:

-ครั้งหนึ่งพระเณรเข้ากุฏิกันเกือบหมดแล้ว หลวงปู่สั่งให้เณรไปต้มน้ำกาใหญ่ เณรบอกว่าไม่มีใครอยู่ฉันน้ำแล้ว หลวงปู่จะให้ต้มน้ำกาใหญ่ไปทำไม หลวงปู่บอกให้ต้มก็ต้มไปเถอะ ต้มน้ำชงชาแล้ว หลวงปู่ให้เณรเอาถว้ยชามาเตรียมไว้50ถ้วย หลวงปู่บอกท่านพระอาจารย์ประยุทธว่า คืนนี้จะมีญาติโยมมาจากกรุงเทพ สักพักก็มีรถบัสมาจอดในบริเวณวัด ท่านให้นำน้ำชามาเลี้ยงญาติโยม ปรากฎว่าถ้วยชาที่เตรียมไว้พอดีคนเลยไม่ทราบท่านรู้ได้อย่างไร

-อีกครั้งขณะที่ท่านกำลังนั่งคุยกับหลวงปู่และเณรท่านอื่นๆหลวงปู่สั่งว่า"ตุ๊ไทย(หลวงปู่ชอบเรียกท่านอย่างนี้เสมอ) ไปสรงน้ำไวๆ" ซึ่งปกติหลวงปู่ไม่เคยย่งกับการสรงน้ำ แต่คราวนี้หลวงปู่กลับมาเร่ง พระอาจารย์ประยุทธก็ถามหลวงปู่ว่า "หลวงปู่ให้กระผมไปสรงน้ำทำไม" หลวงปู่ตอบว่า "ให้ไปสรงก็ไปเถอะ เย็นนี้ 6 โมงเย็นจะมีโยมผู้ชายมานิมนต์ไปปัดรังความนให้ลูกชายที่ตกต้นลำไย แต่เด็กมันต้องตายแน่ไม่รอดดอก อยากจะให้ตุ๊ไทยไปแทน" พระอาจารย์ประยุทธ ก็ไปสรงน้ำ ยังไม่ทันครองผ้าโยมที่ว่าก็ขับรถปิ๊คอัพเข้ามาในวัด รีบมากราบหลวงปู่นิมนต์ให้ไปปัดรังควานให้ลูกชาย ท่านจึ่งไปแทนตามที่หลวงปู่บอกไว้

ท่านพระอาจารย์ได้รับการศึกษาอุบายธรรมอันเฉียบคมเป็นเวลา 3 ปีจากหลวงปู่ตื้อ ท่านมีความเลื่อมใสในหลวงปู่ตื้อมาก

No comments: